ประโยชน์ของการเล่นโยคะ เพื่อสุขภาพและความงาม

เนื่องจากการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาตลอดจนการบริหารร่างกายเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งของการมีสุขภาพดี และกิจกรรมการออกกำลังกายก็มีมากมายหลายชนิด  เช่น  การวิ่ง  ว่ายน้ำ  ขี่จักรยาน  เต้นรำ  รำไท้จี๋  ฝึกซิกง และฝึกโยคะ เป็นต้น กิจกรรมแต่ละอย่างมีรูปแบบการเคลื่อนไหวและวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีเพราะจะทำให้ผู้ที่สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพได้มีโอกาสเลือกกิจกรรมการออกกำลังกายตามความชอบและความสนใจของตน

โยคะ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของกิจกรรมการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมเพื่อบริหารกายและจิต ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จะเห็นได้จากปริมาณของสื่อต่างๆ ได้แก่ หนังสือ วิดีโอ วีซีดี ที่เพิ่มขึ้น โยคะที่ดีต่อสุขภาพก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยเบิร์นแคลอรี่ ปราบเซลลูไลท์ และแก้ปัญหาส่วนเกินในจุดที่คุณสาว ๆ กังวลได้ ถ้ายิ่งฝึกบ่อย ๆ ยังช่วยให้คุณสาว ๆ ดูเด็กลงด้วย ประโยชน์เพียบแบบนี้ชักอยากลุกขึ้นมาฝึกโยคะแล้วสิ แต่ถ้าใครมีปัญหาไม่มีเวลาไปเข้าคอร์สโยคะที่ได้

ปัจจุบันโยคะถือเป็นการออกกำลังกายยอดนิยม ส่วนใหญ่สาวๆ ให้เหตุผลว่าเล่นโยคะแล้วร่างกายฟิตแอนเฟิร์ม หรือการเล่นเป็นประจำเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้มีรูปร่างที่ผอมเพรียวและร่างกายที่ยืดหยุ่นดี หากแท้ที่จริงแล้วโยคะอันเป็นศาสตร์ที่กำเนิดขึ้นมานานกว่า 2000 ปีนั้น ให้ประโยชน์แก่ผู้ฝึกอย่างไร

ประโยชน์ทางด้านร่างกาย
– ร่างกายมีความยืดหยุ่น(Flexibility): ร่างกายของผู้ฝึกโยคะจะได้รับยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ผู้ที่ต้องอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้ร่างกายตึงและยึด เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะฝึกโยคะ
– เพิ่มความแข็งแรง (Strength): ท่าโยคะหลายท่าที่ผู้เล่นจะต้องแบกน้ำหนักของตัวเองในรูปแบบที่แต่งต่างจากในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่นท่า Plank (ลักษณะเหมือนท่าวิดพื้น แต่แขนตรง ไม่งอข้อศอก)
– มีกล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วน: ผลพวงของการมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นคือร่ายกายจะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และกล้ามเนื้อที่ได้จะได้สัดส่วนทั่วทั้งร่างกาย เนื่องจากท่าโยคะต่างๆ นั้นเป็นการบริการตั้งแต่หัวจรดเท้า
– อาการปวดตามส่วนต่างๆ ในร่ายการจะลดลง : ยกตัวอย่างสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง หลังจากคุณฝึกโยคะร่างกายจะมีพัฒนาการในด้านการยืดหยุ่นและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น คนที่ปวดหลังส่วนมากเกิดจากการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือขับรถเป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจจะทำให้เส้นตึง ยึด หรือเส้นประสาทที่กระดูกสันหลังถูกกดทับ ซึ่งถือว่าโยคะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้เหมาะสมอย่างยิ่ง  นอกจากนี้ผู้ฝึกจะมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น
– มีการหายใจที่ดีขึ้น: คนส่วนมากมักจะหายใจไม่ลึกและไม่ให้ความสำคัญกับการหายใจเท่าที่ควร การหายใจแบบโยคี (Pranayama) เป็นการฝึกที่ต้องเพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจและฝึกให้เราหายใจโดยใช้ปอดอย่างเต็มกำลังความสามารถซึ่งร่างกายทุกส่วนจะได้รับประโยชน์ การหายใจแบบโยคีมีหลายประเภทมาก บางประเภทช่วยให้ช่องทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น บางประเภทช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวกับการทำงานของร่างกาย (central nervous  system)  สงบและผ่อนคลาย  ทั้งนี้ผู้ฝึกจะได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
– โยคะเป็นการออกกำลังการที่ใช้น้ำหนักตัวเองช่วย (weight bearing): ซึ่งจะช่วยให้ความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงวัยทองผู้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน และกระดูกบาง